Thumb

คำแนะนำการซ่อมบำรุง

1. ข้อควรระวังตอนตรวจเช็คบำรุงรักษา ในการตรวจเช็คบำรุงรักษาประจำวัน ลูกค้าที่มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับรถยนต์บ้างเล็กน้อย ก็สามารถตรวจเช็คและบำรุงรักษาประจำวันเองได้ ซึ่งจะมีรายละเอียดสำคัญ เช่น “ข้อควรระวัง” “ข้อควรปฎิบัติ” “คำแนะนำ” ซึ่งท่านควรปฎิบัติตามคำแนะนำที่ให้ไว้ กรณีที่ต้องบำรุงรักษา เช่น ปรับตั้งรอบเครื่องยนต์, ปรับจูนแก๊ส, เติมน้ำมันหรือเปลี่ยนน้ำยา ให้ท่านปรึกษากับทางศูนย์บริการของบริษัทฯ ซึ่งทางเราเกรงว่าถ้ามีการดำเนินการบำรุงรักษา โดยปราศจากความรู้ที่เพียงพอหรือเทคนิคเฉพาะด้านแล้ว อาจส่งผลให้เกิดอันตรายหรือเป็นสาเหตุให้รถของท่านเสียหายได้

2. สิ่งที่ควรรู้

2.1  ควรหลีกเลี่ยงสถานที่ที่กีดขวางการจราจรหรือทางสัญจรไปมา เพราะอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ควรหลีกเลี่ยงสถานที่ลาดเอียงเพราะรถอาจลื่นไถลลงมาได้นอกจากนี้จะทำให้การวัดปริมาณน้ำมันหรือน้ำยาต่าง ๆ คลาดเคลื่อน

2.2  การสตาร์ทรถ ถ้าสตาร์ทไม่ติดประมาณ 3 ครั้ง และมีเสียงระเบิดที่หม้อกรองให้ปิดสวิตซ์กุญแจทันทีและปิดวาล์วที่ถังแก๊สและเปิดฝากระโปรงหน้าทันที

2.3  สวิตซ์ LPG-NGV AUTO กรณีสตาร์ทเครื่องยนต์ติด ให้เหยียบคันเร่ง 3-4 พันรอบ 3 ครั้ง เพื่อให้ระบบตัดเป็น LPG-NGV

2.4  สวิตซ์ LPG แบบใช้ระบบ ON-OFF (LPG-น้ำมัน) ปริมาณแก๊ส น้ำมันให้ดูที่เรือนไมล์และสังเกตดูเวลาสตาร์ท ถ้าระบบน้ำมันติดยากให้สับสวิตซ์ไปที่ LPG ถ้ายังไม่ติดให้หยุดสตาร์ท รอประมาณ 30-60 นาที แล้วสตาร์ทใหม่อาการที่กล่าวเกิดจากแก๊ส-น้ำมันท่วม

2.5 แบตเตอรี่ใหม่ เสื่อมคุณภาพได้หลายกรณี

     2.5.1 รถไม่ได้ใช้งานและรถไม่มีการขับเคลื่อน

     2.5.2 แบตเสื่อมจากโรงงาน

     2.5.3 ไดชาร์ท ถ่านหมดหรือไดชาร์ทเสีย

3. วิธีการตรวจเช็คอุปกรณ์ประจำวัน

   3.1 ตรวจปริมาณน้ำมันเบรค ระดับน้ำมันเบรคในกระปุกสามารถมองเห็นได้ ซึ่งระดับน้ำมันเบรคควรอยู่ระหว่าง “Max” และ Min”

   3.2 ตรวจปริมาณน้ำกลั่นแบตเตอรี่  ระดับน้ำกลั่นควรอยู่ระหว่าง “Upper” และ “Lower”

   3.3 ตรวจปริมาณน้ำมันเครื่อง ดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออก เช็คน้ำมันเครื่องที่ติดกับก้านวัดออกด้วยผ้า สอดก้านวัดกลับจนสุด แล้วดึงก้านวัดออกมาอีกครั้งเพื่อตรวจระดับน้ำมันเครื่องที่ปลายก้านวัด ถ้าระดับน้ำมันอยู่ระหว่าง “F” และ “L” แสดงว่าระดับน้ำมันเครื่องปกติ. สภาพของเครื่องยนต์และเสียงแปลกปลอมต่าง ๆ ให้ฟังเสียงเครื่องยนต์ว่ามีเสียงผิดปกติหรือไม่ และตรวจสอบการทำงานของเครื่องยนต์ในรอบเดินเบา ถ้ามีเสียงผิดปกติเกิดขึ้น ขณะเครื่องยนต์ทำงานหรือมีอาการผิดปกติให้รีบติดต่อศูนย์ซ่อมของทางบริษัทฯ

4. ตรวจปริมาณน้ำหล่อเย็นและหม้อน้ำ ตรวจเช็คระดับน้ำหล่อเย็นและดูระดับน้ำหล่อเย็นในหม้อพัก ระดับที่ใช้งานได้ ต้องอยู่ระหว่าง “Full” และ “Low”

5. ตรวจปริมาณน้ำยาล้างกระจก ให้ดูปริมาณน้ำยาล้างกระจกจากภายนอก กรณีน้ำมีน้อยให้เติมให้เต็ม

6. ตรวจสภาพของเครื่องยนต์ และฟังเสียงแปลกปลอมต่าง ๆ  ให้ฟังเสียงเครื่องยนต์ว่ามีเสียงผิดปกติหรือไม่และตรวจสอบการทำงานของเครื่องยนต์ในรอบเดินเบา ถ้ามีเสียงผิดปกติเกิดขึ้น ขณะเครื่องยนต์ทำงานหรือมีอาการผิดปกติให้รีบติดต่อศูนย์ซ่อมของทางบริษัทฯ

7. ตรวจระบบไฟแสงสว่าง

     – ไฟหน้า

     – ไฟเลี้ยว

     – ไฟเบรค

     – ไฟท้าย

     – ไฟส่องป้ายทะเบียน

     – ไฟฉุกเฉิน

 ตรวจเช็คขณะเครื่องยนต์ทำงาน

     –  ตรวจสอบระบบไฟแสงสว่าง, ไฟสูง, ไฟต่ำ, ไฟท้าย ไฟส่องป้ายทะเบียน

     – ตรวจสอบ ระบบไฟสัญญาณไฟเลี้ยว, ไฟเบรค, ไฟถอย ไฟฉุกเฉิน

     *** กรณีที่ระบบไฟแสงสว่างไม่ทำงานหรือทำงานผิดปกติ ให้ปรึกษากับศูนย์ซ่อมของบริษัทฯ

8. ควรสังเกตุเรือนไมล์ ดูเกจ์วัดความร้อน ถ้าขึ้นเกินครึ่งระหว่าง C และ H ให้จอดรถทันที ดูพัดลมหม้อน้ำว่าทำงานหรือไม่และรอจนเครื่องเย็น เปิดฝาหม้อน้ำดูว่ามีน้ำหรือไม่ถ้าไม่มั่นใจให้ปรึกษาศูนย์ซ่อมของบริษัทฯนั้น ๆ – อย่าถอดท่อ, สายยางต่าง ๆ, หรือสายไฟ เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายได้